วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2554

ทางหัวใจ




(Creative Non-Fiction เชิงวรรณกรรมการเงินแกมการตลาดแนวโมเดรินไลฟสไตล์ ลำดับที่ ๒ ว่าด้วย Christie's LIVE)


ตรงหัวถนน New Bond Street ด้าน Bruton Street ที่จะมาออก Berkeley Square ใน Mayfare เป็นที่ตั้งของ Sotheby’s London บริษัทประมูลหรือ Auction House เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดหนึ่งในสองของโลก

วิรัช อดีตฟันด์แมเนเจอร์วัยกลางคนกำลังนั่งอยู่ในคาเฟ่ด้านล่าง ที่โต๊ะหัวมุม เอียงตัวมาข้างหน้านิดๆ จ้องมองเมนูเพื่อสั่งอาหารกลางวันจานโปรดพร้อมของหวาน Lobster Club Sandwich ชิ้นเดียว 18.5 ปอนด์ และ Sotheby’s Hand-made Chocolate Truffles ชิ้นละ 1.20 ปอนด์....ขอสักห้าชิ้น

เขามากินที่นี่ทุกครั้งเมื่อบินมาลอนดอนเพื่อดูงานศิลปะและของสะสมที่ Sotheby’s ต้องนำออกมาโชว์ผู้สนใจกันก่อนเปิดประมูล แม้เขาจะยังไม่เคยลงมือประมูล แต่ก็ได้เข้าไปร่วมอยู่ในห้อง ณ วันประมูล กับบรรดาเพื่อนฝูงฝรั่งในแวดวงหุ้นด้วยกันหลายครั้งแล้ว บางครั้งเขาก็เห็นเจ้าพ่อดิวตี้ฟรี และตัวแทนของรัฐมนตรีหนุ่มศิษย์เก่า Oxford ตลอดจนนายหน้าของอดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาร่วมชูป้ายด้วยในบางครั้ง

เขารู้แล้วว่าคนเหล่านั้นเริ่มโยกย้ายถ่ายเทเงินทองที่ตัวเองกอบโกยมาซ่อนไว้ในต่างประเทศ เจียดวงเงินมาเปลี่ยนให้อยู่ในรูปของงานศิลปะและของสะสม เพราะอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกต่ำเตี้ยลงทุกวัน แถมเงินดอลล่าร์ ยูโร ปอนด์ ก็ไร้อนาคต

วิรัชเคยเป็นผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ดูแลกิจการกองทุนรวมของธนาคารมาแต่ต้น มีหน้าที่ตัดสินใจซื้อขายหุ้น และบริหารเงินลงทุนให้กับธนาคารมากว่า 20 ปี จนสะสมทุนได้ก้อนใหญ่ ด้วยการซื้อขายพอร์ตส่วนตัวคู่ขนานกันไป เดี๋ยวนี้วิรัชร่วมหุ้นกับฝรั่งเปิดกิจการให้คำปรึกษากับบรรดากองทุนเฮจฟันด์ที่นำเงินไปลงทุนในเมืองไทย เขาจึงคุ้นเคยกับบรรดาเฮจฟันด์แมเนเจอร์และ Private Equity จำนวนมาก ที่ส่วนใหญ่มีสำนักงานและนิวาสถานอยู่แถว Mayfair

แม้เขาจะคุ้นเคยกับอเมริกามากกว่า เพราะเคยไปเรียนที่ประเทศนั้นกว่าสิบปี ทว่า นับแต่เกิดวิกฤติซับไพร์ วิรัชบินมาลอนดอนเกือบทุกเดือน เพราะเขาดีดลูกคิดรางแก้วแล้วว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ย่านสำคัญๆ ที่นี่น่าลงทุน และถือโอกาสหมายตางานศิลปและของสะสมเด็ดๆ ที่คิดว่าจะทะยอยเก็บไว้ในพอร์ตด้วย ที่สำคัญ เขากำลังติดพันอยู่กับสาวน้อยรูปร่างอ้อนแอ้นอรชร นักศึกษาปริญญาโทแห่ง Central St.Martin ที่จากบ้านมานานและกำลังเหงาอย่างยิ่ง

วิรัชชอบลอนดอนและพยายามใช้ชีวิตเยี่ยงนักการเงินที่นี่ เขาตัดเสื้อผ้าแถว Savile Row และ Burlington หรือไม่ก็ซื้อสำเร็จจาก Jermyn Street สูบซิก้าร์และยาเส้นของ JJ Fox และ Robert Lewis ดื่มชาที่ The Ritz เป็นประจำ อ่านหนังสือ Singed Copy จาก Hatchards ช็อปของใช้ส่วนตัว Gentleman’s Relish ใน Fortnum & Mason และดูโอเปร่าที่ Covent Garden และตระเวนดูการประมูลของสะสมตาม Auction  House ที่เชื่อถือได้มาจวนจะครบแล้ว Sotheby’s, Christie’s, Gray’s, Bloomsbury, 1818 Auctioneers, Andrew Smith, Bearnes Hampton & Littlewood, Boulton & Cooper, Burstow & Hewett, Crow’s Gallery, Jones & Jacob, Lyon & Turnbull, McTear’s, Sworders, Toovey’s, Wooley & Wallis, Aspire, Bushey, Chalkwell, Chorley’s, H & H Auction Room, Hampstead Auction, Locke & England, Richardson & Smith, Murray’s, Churchgate, Lloyd Cameron & Partners, Davon & Cornwall, Gilding’s, Lawrences of Bletchingley, W & H Peacock, Michaan’s, Rudd’s, Tamlyn & Son,.......ฯลฯ

เขาต้องศึกษาตลาดก่อนลงมือ สไตล์ของเขาต้องรอบคอบ ศึกษาให้ครบ ใช้เวลากับมันในช่วงแรกให้เยอะ รู้จุดเสี่ยงและทางถอย แต่พอลงมือ ก็ต้องสุดแรงเกิด เขายึดสูตรนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตั้งแต่เริ่มอาชีพ หลังจบปริญญาเอกจากยูท็อปเท็นด้วยทุนคิงกลับมาเมืองไทยใหม่ๆ

เขาแทบไม่เคยพลาด แม้ตอนปี ‘40 เขาก็ “ออกทัน” ทำให้มีกำลังไปซื้อของถูกได้หลังจากนั้น ในช่วงรัฐบาลทักษิณ เขาเกาะกระแสและ Make Money ได้มาก Net Worth ของเขาเพิ่มขึ้นในช่วงนั้นเกือบห้าเท่าตัว เขาเป็นนักคำนวณ สมัยมัธยมปลายเคยสอบได้ที่หนึ่งของประเทศ เมื่อต้องลงทุนและต้องเกี่ยวข้องกับผู้คน เขาไม่เคยคิดหวังในเชิงความสัมพันธ์ ไม่คิดและไม่หวังในเชิงนำ้ใจ เชิงไมตรี ไม่เคยรัก ไม่เคยเกลียด ไม่เคยเห็นใจ ไม่โกรธ ไม่แค้นเคือง ไม่เคียดแค้น ไม่ผูกใจเจ็บ เขาสนใจแต่การทำดีล ทำ Transactions ทำสัญญา ต้องเซ็น ต้อง Amend ต้องซื้อ ต้องขาย ต้องโอน ต้องตัดขาดทุน ต้อง Cut Loss ต้องจ่ายใต้โต๊ะ ต้องแบ่งเปอร์เซ็น ต้องให้คอมมิชชั่น โดยเป้าหมายสูงสุด คือต้องซื้อถูกและขายแพง หน่วยวิธีคิดของเขามักเป็นบาท เป็นดอลฯ เป็นยูโร เป็นหุ้น เป็นออนซ์ เป็นบาเรล เป็นกิโล เป็นตัน เป็นลูกบาทก์ เป็นบุชเชล เป็นแบ็ทช์ เป็นทรังก์ เป็นเบซิสพ้อยท์ เป็นยิล เป็น Options เป็น Futures เป็น Holding Companies เป็น Subsidiaries เป็นเงินปันผล และเป็นค่า Fees

เขาพบว่าเขาเหมาะกับอาชีพหุ้น กับการเก็งกำไร กับการซื้อมาขายไป กับการซื้อถูกขายแพง เขาจึงหันหลังให้กับอาชีพวิศวกรทั้งๆ ที่ร่ำเรียนมาจนจบปริญญาเอก เพราะเขาหูตาไว เปี่ยมพลังชีวิตและพลังทางเพศ  ชอบล่า ชอบเอาชนะ ชอบพิชิต ชอบยึดครอง ชอบครอบงำ ตื่นตัว ขี้สงสัย ชอบหาข้อมูล ไม่อยู่นิ่ง มีสัมผัสพิเศษ รู้ว่าภัยพิบัติกำลังจะมา จังหวะจะโคนเขามักถูกต้อง ซื้อถูกเวลา ขายถูกเวลา และเขายังเลือดเย็น ไม่เคยนึกสงสารเห็นใจใคร ไม่เคยสำนึกเสียใจ ไม่เคยละอายใจ แต่ก็อัธยาศรัยดี เป็นที่รักใคร่ของผู้คน โดยเขาไม่เคยคิดจะมีความผูกพันกับใคร ไม่ว่าจะเป็นคู่ค้า เพื่อนฝูง คนรัก หรือแม้แต่ญาติพี่น้อง เขาเพียงใช้คนเหล่าที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเหล่านั้นเป็นบันใดเพื่อกรุยทางให้เขาบรรลุเป้าหมาย....เขาอาจเป็นคนไร้หัวใจ แต่ก็เป็นนักลงทุนผู้ประสบความสำเร็จมาก

ทว่า ขณะเพ่งมองภาพเขียนยุคแรกของ Lucian Freud ณ ห้องแสดงงานของ Sotheby’s นั้นเอง พลันเขาก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองแก่ตัวลง พลังชีวิตและจิตวิญญาณนักล่าในตัวเองเริ่มถดถอย เขาโหยหาสิ่งเริงรมย์ใจ อยากเห็นของสวยๆ อยากลิ้มรสอร่อยๆ อยากฟังเสียงไพเราะๆ อยากสูดกลิ่นอันหอมหวานชื่น และรับสัมผัสจรุงใจ

เขาคิดแล้วว่าต้องใช้สตางก์ที่หามาได้ให้คุ้มค่า ต้องเริ่มใช้ชีวิต ต้องหารักแท้ รักแบบหนุ่มสาว รักโรแมนติก และต้องเลิกกิจกรรมการลงทุนแบบวันต่อวัน ชั่วโมงต่อชั่วโมง นาทีต่อนาที วินาทีต่อวินาที แต่ก็ต้องไม่ทิ้งลายนักเก็งกำไร ซื้อถูกขายแพง ต้องหาอะไรที่สามารถทำไปด้วยเดินทางท่องเทีี่ยวไปด้วย มีเวลาติดพันหญิงสาวที่ตนรัก มีเวลาอ่านหนังสือที่ชอบ ไม่อยากหมกมุ่นกับข้อมูลเศรษฐกิจการเมืองเหมือที่ผ่านมา และต้องสามารถครอบครองสัมผัสขัดถูสิ่งของหายากที่น่าหวงแหน เสพงานศิลป เสพอาหารแปลกๆ เสพเสียงเพลง เสพของดีที่ Unique เพราะลูกไม่มี เมียก็หย่าไปแล้ว



ห่างจากตึกนั้นไม่ไกล อีกฝั่งของ Piccadially เยื้องๆ กับ St. James’ s Palace และ Spencer House คฤหาสประจำตระกูลของเจ้าหญิงไดอาน่า ตรงแยก King Street ตัดกับ Bury Street เป็นที่ตั้งของ Christie’s ยักษ์ใหญ่ของวงการอีกราย

วิรัชมาดูชิ้นงานประมูลตามนัด เขาผ่านซุ้มประตูแมนชั่นหรูเข้าไปยังห้องโชว์ด้านซ้าย ก็เห็นหนังสือเก่าและต้นฉบับลายมือเขียน รวมทั้งจดหมายเก่าที่ลงลายมือชื่อคนดังในอดีตจำนวนมาก วางกางอ้าซ่าอยู่ในตู้กระจกนิรภัย ภายใต้ลำแสงเล็กๆ แต่แรงและสว่างพองาม พร้อมแว่นขยายที่จัดไว้ในตำแหน่งสำคัญ ให้ผู้ประมูลได้เพ่งพินิจก่อนตัดสินใจร่วมเสนอราคาเมื่อวันประมูลจริง ในอีกสามอาทิตย์ข้างหน้า

เป้าหมายของวิรัชอยู่ที่ LOT 48/ SALE 7760 คือ “On the Origin Of Spicies by Means of Natural Selection” ของ Charles Darwin ฉบับพิมพ์ครั้งแรกโดย W. Clowes and Sons by John Murray, London 1859

สำหรับเขาดาร์วินเป็น Super Genius และ “Survival of the Fittest” คือคติประจำใจที่เขายึดถือตลอดมา การใช้ชีวิตอยู่กับตลาดหุ้นท่ามกลางฟันแมเนเจอร์ทั่วโลกที่ล้วนแต่เป็นพวกหัวกะทิ อุปมาก็เหมือนต้องดำรงชีวิตในป่าดงดิบท่ามกลาง เสือ สิงห์ กระทิง แรด ที่ต้องล่า ต้องฆ่า ต้องหลบหลีก และต้องชนะ ในขณะที่ต้องออกหาขุมทรัพย์ตามลายแทงมหาสมบัติ

“Would you like me to book your pre bid?, Sir.” ผู้เชี่ยวชาญหญิงประจำห้องโชว์ถามวิรัช หลังจากหยิบหนังสือเล่มนั้นออกมาพลิกทีละหน้าอย่างละเอียด เพื่อให้เห็นว่าหน้าไหนมีตำหนิอะไรที่ควรระวัง โดยเล่มนี้มีรอยฉีกราว 20 ม.ม. ตามรอยสันปกหน้าด้านบน และสันปกบนยวบนิดหน่อย มุมปกแข็งทั้งสี่ยู่เข้ามานิดนึง และปกหน้าในมีรอยปริเล็กๆ แต่ก็สังเกตุเห็น ที่เหลือค่อนข้างสมบูรณ์ หุ้มปกแข็งเดิมๆ สีเขียวเดินทอง ตัวหนังสืออยู่ครบและยังเห็นชัดเจน

“I’ll be on board that day to Boca Raton” วิรัชตอบ

“I would recommend our online bid, Sir.”

“Could you please open my account?”

“As you wish, Sir.”  

วิรัชเคยเห็นตอน Christie’s ประมูลหลายครั้งแล้ว ห้องนั้นจุคนได้สัก 300 หรืออาจสัก 400 อีดอัดเล็กๆ แต่กลิ่นหอม โถงกว้างมีเก้าอี้เรียงรายให้สำหรับผู้ร่วมประมูล ตรงผนังห้องสองข้างซ้ายขวามียกพื้นสูงสักเมตร บนนั้นเรียงรายไปด้วยผู้เชี่ยวชาญที่คอยรับโทรศัพท์จากบรรดาเศรษฐี VIP ผู้มิได้อยู่ในห้องนั้นแต่อยากร่วมเสนอราคาด้วยคน และเหนือขึ้นไป แขวนภาพสำคัญๆ ที่จะเป็นเป้าหมายของการประมูลในวันนั้น โดยโพเดียมไม้โอ๊กสีแดงเข้มแต่ขลัง ลงอักขระ Christis’s สีทองประกาย จะตั้งตระหง่านอยู่บนปรัมด้านหน้า พร้อมกับผู้กำกับการประมูลที่คอยพากษ์ราคาอย่างเชี่ยวชาญ น่าฟัง แต่เร้าอารมณ์ ในมือถือฆ้อน Gavel กำกับการประมูลด้วยลีลาลีลาศเข้าจังหวะ

วิรัชเพิ่งรู้ว่าระบบ Online Auction ของ Christie’s ที่พวกเขาเรียกว่า LIVE กำลังไปได้สวย สำหรับของสะสมทั่วไปชิ้นเเล็กๆ อย่างนาฬิกา ไวน์ หนังสือ เครื่องประดับ ที่ราคาประมูลยังไม่ขึ้นหลักหลายหลายล้าน ผู้เชี่ยวชาญสาวสวย หลังจากขอบัตรเครดิตจากวิรัชไปเปิดบัญชี และสร้าง MY CHRISTIES ให้เขาเป็นเฉพาะ ก็มอบ User’s Name และ Password กับบอกวิธีประมูลแบบ Real Time อย่างละเอียด พร้อมกับกล่าวอวยพร “Good Luck, Sir.”

สามอาทิตย์ต่อมา ขณะที่เขากับแฟนสาวกำลังอยู่บนเครื่อง Boeing 767-200 ของ American Airline จาก New York’s JFK ปลายทาง Miami วิรัชกลับจ้องอยู่หน้าจอ MacBook Air ขนาดสิบห้านิ้วของเขาอย่างใจจดใจจ่อ สัญชาติญาณนักล่ากลับเข้าสิงสู่เขาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว แต่ก็เป็นธรรมชาติ เขายิงสามช่วงราคาทันทีเมื่อได้ยินเสียงพากษ์เปิด LOT 48 จากราคาเริ่มต้น 5,000 ปอนด์ ดันขึ้นไปทันทีที่ 10,000 ปอนด์ ภายในเวลาไม่ถึงนาที

เขารู้สึกเหมือนถูกหมัดฮุกเข้าที่ลำตัว แต่ก็ทันปล่อยอัปเปอร์คัตก่อนเบี่ยงขวาออกมา แล้ววกกลับเข้าไปออกหมัดขวาเต็มเหนี่ยว


ตัวเลขราคาก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว จาก 10,000-12,000-15,000-20,000-30,000-40,000-55,000-65,000-80,000-95,000 แลกหมัดกันอย่างชุลมุนชุลเก และระหว่างที่กำลังจะหมดยก เขาก็เบี่ยงตัวหลบออกมาจากกลุ่มควันที่กำลังตลบอบอวล ในสมองของเขาคิดคำนวณหน่วย Cross Currency โดยอัตโนมัติ โอ้ว! นี่มันเกือบห้าล้านบาทแล้วนี่นา แต่ดาร์วิน โอ้ดาร์วิน ซูเปอร์จีเนียส ไอสไตน์ ไฟร์แมน ว้อกออนเดอะวู๊ด นิวตัน กาลิเลโอ ดาวินชี เคปเล่อร์ ไลปนิซ รัสเซล ไวท์เฮ็ด ลิง วานร คน ลิงมาเป็นคน คนเป็นบรรพบุรุษของลิง หรือลิงเป็นบรรพบุรุษของคน ห้า ห้าล้าน ห้าล้านบาท ใจ ใจเต้น ใจเต้นแรง มันส์ มันส์ดี มันส์มาก มันส์สุดๆ Buyer’s Premium อย่าลืม อย่าลืม บวกไป คำนวณ คำนวณเร็ว ยี่สิบเปอร์เซนต์ อีกล้านกว่า หกล้าน โอ้ว! หกล้าน หนังสือเล่มเดียว หกล้าน สร้างห้องสมุดได้ ห้องสมุด เด็กไร้โอกาส ห้องสมุด VAT VAT  VAT อ้า..แต่ VAT ยกเว้น ยกเว้นคือไม่ต้องเสีย แล้ว Buyer’s Premium ละเสียไหม เสีย ไม่เสีย ไม่เสียหนิ หกล้าน หกล้าน หกล้าน ต้องเต็มที่ ต้องสุดแรงเกิด ต้องหมดแม็ก แต่ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ ต้องอั้น ต้องอั้นไว้ ต้องอั้นไว้บ้าง อั้นเลย อั้นเท่าไหร่  หกล้าน หกล้าน อั้นหกล้าน


เขาสูดหายใจเข้าเร็วแรงแล้วกดคีย์ 120,000 แล้วก็ “คลิก”

เขาเห็นตัวเลขสีเขียวกระพริบบนหน้าจอขาวเอี่ยมเลี่ยมด้วยกรอบดำเมี่ยมคลาสสิก 103,250 พร้อมเสียงพากษ์ One hundred and three thousands two hundred and fifty, One hundred three thousands two hundred and fifty, One-oh-three two fifty pounds,....One...bla bla bla bla bla....Two....bla bla bla bla bla....Three แล้วเสียงฆ้อน แล้วเสียงพากษ์ Next, Lot forty-nine.

“แวะ Key West ก่อนกลับกรุงเทพได้ไหมค่ะ” เสียงใสๆ ดังขึ้นข้่างหูพร้อมลมหายใจอุ่นๆ
“น่าไป SLOPPY JOE’ S

เขารู้สึกโหวงๆ พิกล ราวกับหลังเสร็จภาระกิจอะไรสักอย่างที่คุ้นเคย



หมายเหตุ: ท่านผู้อ่านที่สนใจผลประมูลหนังสือ An Origin of Species เล่มนั้นจริงๆ เชิญคลิกตรงนี้


ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร MBA ฉบับพิเศษ เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2544

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น